ขายต้นกล้ากัญชาถูกกฎหมายหรือไม่? สิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อขาย

ในยุคที่กัญชากลายเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของไทย ความสนใจในการปลูกและซื้อขายพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในหมวดของ ต้นกล้ากัญชา ที่หลายคนมองว่าเป็น “ก้าวแรก” สู่การเพาะปลูกเพื่อใช้ส่วนตัวหรือเชิงพาณิชย์ แต่ท่ามกลางความตื่นตัวนี้ คำถามที่สำคัญกลับยังคงค้างคาใจผู้คนจำนวนมากว่า การขายต้นกล้ากัญชาถูกกฎหมายหรือไม่? และเราควรรู้อะไรก่อนจะตัดสินใจซื้อขาย

ต้นกล้ากัญชา

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับมุมมองทางกฎหมายของประเทศไทยเกี่ยวกับ ต้นกล้ากัญชา พร้อมข้อมูลสำคัญที่ผู้ซื้อและผู้ขายควรทำความเข้าใจ เพื่อไม่ให้ตกอยู่ในสถานะ “ผิดโดยไม่รู้ตัว”

สถานะทางกฎหมายของต้นกล้ากัญชาในประเทศไทย

แม้ประเทศไทยจะปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดประเภทที่ 5 ตั้งแต่ปี 2565 และอนุญาตให้ประชาชนสามารถปลูกกัญชาได้ในระดับหนึ่ง แต่ต้องเข้าใจว่า การปลูกกัญชาไม่ได้ “เสรี” เต็มรูปแบบ โดยเฉพาะในเรื่องของการเพาะปลูกเพื่อการค้า

ต้นกล้ากัญชา ถือเป็นพืชที่อยู่ในกระบวนการเพาะปลูกซึ่งยังมีข้อกำหนดควบคุมหลายอย่าง เช่น ต้องแจ้งขึ้นทะเบียนการปลูกกับกระทรวงสาธารณสุขหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการซื้อขายเพื่อจำหน่ายจะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมเช่นกัน ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถ “ขายได้ทันที” แม้จะเป็นเพียงต้นกล้า

ในทางกฎหมาย การซื้อขายโดยไม่มีการแจ้งหรือได้รับใบอนุญาต อาจเข้าข่าย “การค้ากัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งมีความผิดทางกฎหมายและมีโทษปรับสูง

สิ่งที่ผู้ขายต้นกล้ากัญชาต้องรู้

หากคุณกำลังคิดจะเข้าสู่วงการนี้ในฐานะผู้ขาย สิ่งแรกที่ควรทำคือ ศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ คุณจำเป็นต้องมีเอกสารชัดเจนในการเพาะปลูก รวมถึงเอกสารแสดงที่มาของเมล็ดพันธุ์และขั้นตอนการปลูกที่ถูกต้อง

ผู้ขาย ต้นกล้ากัญชา ควรขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และควรมีสถานที่เพาะปลูกที่ตรวจสอบได้ เพื่อความโปร่งใสและลดความเสี่ยงในอนาคต

นอกจากนี้ ยังต้องเข้าใจข้อจำกัดเรื่อง สายพันธุ์ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะบางสายพันธุ์ที่มีปริมาณ THC สูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดอาจยังคงถือว่า “ผิดกฎหมาย” ได้

การทำเอกสารการค้า เช่น ใบเสร็จ, ใบส่งของ หรือใบรับรองการปลูก ควรทำอย่างชัดเจน เพราะสามารถใช้เป็นหลักฐานได้ในกรณีมีการตรวจสอบทางกฎหมายในอนาคต

ข้อควรระวังสำหรับผู้ซื้อที่กำลังสนใจต้นกล้ากัญชา

ในฐานะผู้ซื้อ การเลือกซื้อต้นกล้าไม่ควรมองแค่เรื่องคุณภาพหรือราคาเท่านั้น แต่ควรให้ความสำคัญกับ ความถูกต้องทางกฎหมาย ของผู้ขายด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้คุณกลายเป็นผู้สนับสนุนกิจกรรมที่ผิดกฎหมายโดยไม่ตั้งใจ

คุณควรตรวจสอบให้แน่ชัดว่าผู้ขายมีเอกสารการเพาะปลูกและการจำหน่ายที่ชัดเจนหรือไม่ และควรถามถึงที่มาของเมล็ดพันธุ์ เช่น ได้มาจากแหล่งที่ได้รับอนุญาตหรือไม่ มีใบรับรองหรือเอกสารประกอบหรือไม่

ผู้ซื้อที่มีเป้าหมายเพื่อปลูกไว้ใช้เอง ก็ควรดำเนินการแจ้งขึ้นทะเบียนการปลูกให้ถูกต้องตามกฎหมายด้วย แม้จะปลูกในบ้านเพียงไม่กี่ต้นก็ตาม

อีกหนึ่งข้อที่ไม่ควรมองข้ามคือ การขนส่ง หากคุณสั่งซื้อต้นกล้าออนไลน์ ผู้ขายและผู้ซื้อควรเลือกวิธีการจัดส่งที่เหมาะสม ปลอดภัย และไม่เป็นที่สะดุดตา หรือสร้างความเข้าใจผิดจากบุคคลภายนอก

แนวโน้มของกฎหมายในอนาคตเกี่ยวกับต้นกล้ากัญชา

แม้ปัจจุบันยังมีความคลุมเครือในบางส่วนเกี่ยวกับการซื้อขาย ต้นกล้ากัญชา แต่ก็มีแนวโน้มว่ารัฐบาลจะออกกฎหมายควบคุมเฉพาะทางมากขึ้นในอนาคต เช่น การออกใบอนุญาตเฉพาะสำหรับผู้ผลิตต้นกล้า หรือการแบ่งประเภทต้นกล้าตามวัตถุประสงค์การใช้งาน ผู้ที่สนใจในวงการนี้ควรติดตามข่าวสารและกฎหมายใหม่ ๆ อย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมด้านเอกสาร กรรมวิธีการปลูก และการจดทะเบียนให้ถูกต้อง ในบางประเทศ เช่น แคนาดา หรือสหรัฐฯ ในบางรัฐ มีการแบ่งระดับผู้ปลูกและผู้จำหน่ายอย่างละเอียด เช่น ระดับ Home Grow, Commercial Grower หรือ Licensed Seedling Producer ซึ่งรูปแบบคล้ายกันอาจถูกนำมาใช้ในไทยเช่นกัน การขาย ต้นกล้ากัญชา อาจดูเป็นโอกาสใหม่ในตลาดการเกษตร แต่ก็เป็นโอกาสที่มาพร้อมกับ “ความรับผิดชอบทางกฎหมาย” ทั้งต่อผู้ซื้อและผู้ขาย

ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ในบทบาทไหน การศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ และดำเนินการให้สอดคล้องกับข้อกฎหมายเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อให้คุณสามารถเติบโตในวงการกัญชาได้อย่างมั่นคง ปลอดภัย และยั่งยืนในระยะยาว